Friday, June 24, 2016

คุณแม่ยังสาว หลังจากมีคนบอกว่าเดียวก็เลิกกัน ล่าสุดออกมาพูดแบบนี้แล้ว!?


เปิดใจคุณแม่ยังสาว หลังเรื่องราวรักแท้ของเธอโด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียล เจ้าตัวยืนยันหนักแน่น จะรักและดูแลสามี ต่อให้ไม่มีลูกด้วยกันก็ยังจะอยู่ดูแลด้วยความรักในฐานะภรรยา

หลังจากที่โลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวสุดซึ้งของคุณแม่ยังสาว ที่ต้องกลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อสามีของเธอประสบอุบัติเหตุขณะแข่งรถจนร่างกายส่วนล่างใช้งานไม่ได้ แต่ความรักความอบอุ่นในครอบครัวยังเหมือนเดิม และคุณแม่คนนี้ก็ยืนยันกับสามีว่า “การที่คุณเดินไม่ได้ มันไม่ใช่เหตุผลที่ชั้นควรไปจากคุณ มันทำให้ชั้นยิ่งต้องดูแลเอาใจใส่คุณมากขึ้น และรักคุณมากขึ้น เราทั้งคู่ควรสู้เพื่อกันและกัน และเพื่อลูก” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุด (23 มิถุนายน 2559) ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง น.ส.อสาพติ ขลิบทอง หรือ มีน อายุ 24 ปี เจ้าของเรื่องราวดังกล่าว โดย น.ส.อสาพติ เปิดเผยว่า ตนได้คบหากับแฟนหนุ่มนักแข่งรถชื่อ มิคาเอล วอคเกอร์ อายุ 25 ปี ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ได้ 2 ปีแล้ว ซึ่งพ่อแม่ก็รับทราบทั้ง 2 ฝ่าย เพียงแต่อยู่คนละบ้าน โดยฝ่ายชายอยู่รังสิต ตนอยู่ย่านเพชรเกษม ระหว่างที่คบกันก็ทำงานเก็บเงินรอวันแต่งงาน แต่แฟนหนุ่มก็เกิดอุบัติเหตุขาหัก แต่ก็สามารถกลับมาเดินได้ ซึ่งไม่นานตนก็ตั้งครรภ์ และย้ายมาอยู่บ้านแฟนจนกระทั่งคลอดลูก แต่แฟนของตนก็กลับประสบอุบัติเหตุอีกครั้ง แต่หนักกว่าครั้งก่อน ซึ่งครั้งนี้พิการ เดินไม่ได้ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายเดือน และกลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อ ซึ่งจนถึงขณะนี้เหตุการณ์ผ่านมาถึง 6 เดือน และลูกสาวอายุได้ 1 ขวบแล้ว

น.ส.อสาพติ กล่าวอีกว่า ปกติแฟนของตนเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยโรแมนติก ไม่ค่อยเทคแคร์จนอยากเลิก แต่เขาก็รถล้มขาหักเสียก่อน จนมีอยู่วันหนึ่งเขาก็หอบช่อดอกไม้และถือไม้เท้ามาด้วย ตนก็เกิดความประทับใจว่าจะมีผู้ชายแบบนี้สักกี่คนที่ยอมมาหาเราทั้ง ๆ ที่เขายังเจ็บอยู่ และปกติมันก็ไม่ใช่นิสัยของเขาเลย



และจากอุบัติเหตุครั้งที่สองที่แฟนหนุ่มพิการนั้น เขาก็บอกว่าท้อ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ตนจึงบอกว่าทำไมไม่สู้ ทั้ง ๆ ที่ตนและลูกจับมือสู้ไปด้วยกัน ซึ่งเขาพยายามไล่ให้ตนไปหาแฟนใหม่ ซึ่งตนเหนื่อยมากที่ต้องตอบว่ายังไงก็ไม่มีทางไป จะอยู่ดูแลให้ดีที่สุด อีกทั้งการที่แฟนหนุ่มมีชีวิตอยู่ได้นั้นคือสิ่งที่ตนดีใจที่สุด ตนจะทำทุกอย่าง จะหาวิธีรักษาทุกอย่างที่จะทำให้เขาเดินได้ปกติ แต่แฟนหนุ่มชอบบอกว่า ไม่มีเงินก็ไม่ต้องรักษา เก็บไว้ให้ลูกดีกว่า ถ้าไม่รักษาจะยิ่งเดินไม่ได้ หมอบอกว่าถ้ายังเดินไม่ได้ภายใน 6 เดือน ต่อไปจะพิการถาวร



ส่วนเรื่องการดูแล ปรนนิบัติสามีนั้น น.ส.อสาพติ บอกว่า ตนไม่รังเกียจเรื่องเช็ดอึ เพราะมันเป็นสิ่งที่ภรรยาต้องทำให้สามี มีคนถามว่าคบกันมา 2 ปี ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ มันเรียกว่าความรักได้เหรอ มันคือความสงสารหรือเปล่า หรือแม้กระทั่งมองว่าเราอยากให้ลูกมีพ่อหรือ ซึ่งตนยืนยันว่าต่อให้ไม่มีลูก ตนก็จะทำหน้าที่ภรรยา ดูแลไม่ไปไหน เพราะเรารักเขาไปแล้ว และเขาก็ไม่เคยนอกใจเราแม้แต่ครั้งเดียว

From: http://www.thesunz.com/50959


0 comments:

Post a Comment